‘คลีนิกข์’ ควงเซเว่นทีนเจาะวัยรุ่นโรดโชว์ภูธรเคาะรั้วมหาวิทยาลัย

Posted: สิงหาคม 12, 2010 in Uncategorized

คลีนิกข์รุกตลาดเต็มสูบ ทุ่ม 10 ล้านบาทผนึกนิตยสารเซเว่นทีนลุยโรดโชว์ 10 จังหวัด เผยการทำตลาดเปลี่ยนบริษัทเพิ่มออนไลน์มาร์เก็ตติ้งปูทางสร้างแกร่ง หวังขยายตลาดวัยรุ่น ปลายปีเตรียมออกภาพยนตร์โฆษณากลุ่มลดเลือนริ้วรอย เจาะฐานวัยทำงาน

น.ส.ปวิยดา บุรานนท์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท เอลก้า (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องสำอางชั้นนำแบรนด์ “คลีนิกข์ (CLINIQUE)” เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เดินหน้าจัดกิจกรรมการตลาดแบบเต็มรูปแบบหวังขยายฐานลูกค้ากลุ่มวัยรุ่นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดบริษัทได้ร่วมกับนิตยสารเซเว่นทีน (SEVENTEEN) จัดกิจกรรมโรดโชว์ภายใต้ชื่อ “CLINIQUE  STAR  TOUR” เดินสายจัดกิจกรรมโรดโชว์เดินสาย 10 จังหวัดใหญ่ รวม 24 แห่งตามมหาวิทยาลัยและห้างสรรพสินค้าในหัวเมืองใหญ่ ด้วยการเดินทางไปมอบความสวยสดใสและสร้างผิวดีให้กับสาวๆ แบบถึงที่ พร้อมกันนี้บริษัทฯ ยังได้เปิดตัว ” MO BI LE BEAUTY  STUDIO” เดินทางข้ามจังหวัดเพื่อแนะนำการดูแลผิว พร้อมเทคนิคการแต่งหน้า ทำผม การแต่งตัวโดยผู้เชี่ยวชาญและทีมแฟชั่น นอกจากนี้ยังได้ถ่ายรูปโดยช่างมืออาชีพ เพียงสมัครเข้าร่วมกิจกรรม “ค้นหาสาวผิวสวยแบบคลีนิกข์” เพื่อค้นหาผู้ชม 3 คน มาสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษกับคลีนิกข์และนิตยสารเซเว่นทีน โดยการจัดกิจกรรมดังกล่าวเพื่อสร้างการรับรู้ให้กับกลุ่มวัยรุ่น และเพื่อให้ฐานลูกค้ากลุ่มวัยรุ่นเพิ่มสัดส่วนขึ้น และหวังว่าคลีนิกข์จะเป็นแบรนด์แรกที่เข้าไปอยู่ในใจของผู้บริโภควัยรุ่นเมื่อต้องตัดสินใจเลือกผลิตภัณฑ์ในการดูแลผิว รวมถึงการทำสื่อโฆษณา การแจกสินค้าตัวอย่าง ภายใต้งบประมาณ 10 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นการจัดกิจกรรมในต่างจังหวัดเป็นครั้งแรก เนื่องจากมองเห็นศักยภาพด้านกำลังซื้อในกลุ่มผู้บริโภคต่างจังหวัด หลังจากเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้มีการรุกจัดกิจกรรมโรดโชว์ภายใต้ชื่อ “Great  Skin c ha l leng e” ที่เน้นเฉพาะในกลุ่มกรุงเทพฯ และปริมณฑล ส่งผลให้ปัจจุบันมีสัดส่วนลูกค้าในกลุ่มวัยรุ่นอายุระหว่าง 18-25 ปีที่ 20% และกลุ่มวัยทำงานอายุระหว่าง 25-35 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักมีสัดส่วนอยู่ที่ 80%

“วิธีการทำตลาดในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปขณะที่โอกาสทางการตลาดเพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันเครื่องสำอางเคาน์เตอร์แบรนด์ใหญ่ๆ ต่างก็กระโดดลงมาทำโฆษณาผ่านโทรทัศน์มากขึ้น บวกกับการแข่งขันของตลาดเครื่องสำอางเคาน์เตอร์แบรนด์ไม่เน้นการแข่งขันด้านราคา แต่จะแข่งขันในเรื่องของกิจกรรมทางการตลาด เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้า ดังนั้นบริษัทฯ ก็ต้องมองหาช่องทางใหม่เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น”

นอกจากนี้บริษัทฯ ยังร่วมกับบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จัดแคมเปญแบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็น ทรูมูฟ, ทรูออนไลน์, ทรูมันนี่, ทรูวิชั่นส์และทรูไลฟ์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการขยายฐานกลุ่มวัยรุ่นของ บริษัทฯ เนื่องจากมีฐานลูกค้ากลุ่มเดียวกัน ทั้งนี้จากบทบาทของสื่อออนไลน์ที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของผู้บริโภค ดังนั้นบริษัทฯ จึงรุกทำตลาดผ่านออนไลน์มาร์เก็ตติ้งเพิ่มขึ้น

น.ส.ปวิยดา กล่าวต่อว่า ปัจจุบันการทำตลาดเปิดกว้างโดยบริษัทฯ มองหาช่องทางการตลาดเพื่อเข้ากับกลุ่มเป้าหมาย การทำภาพยนตร์โฆษณาของ บริษัทฯ ต้องดูก่อนว่าฐานผู้ชมรายการเป็นกลุ่มใด ซึ่งหากตรงกับกลุ่มเป้าหมายบริษัทฯ จึงจะเข้าไปโฆษณาในช่วงเวลานั้น

อย่างไรก็ตาม กลุ่มเป้าหมายหลักของแบรนด์ “คลีนิกข์” ยังเป็นกลุ่มวัยทำงานอายุ 25-35 ปี โดยในช่วงปลายปี 2553 บริษัทฯ จะมีการออกภาพยนตร์โฆษณาในกลุ่มผลิตภัณฑ์ลดเลือนริ้วรอยเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายหลัก ขณะเดียวกันช่วงกลางปีบริษัทฯ มีการออกภาพยนตร์โฆษณาในกลุ่มของผลิตภัณฑ์มอยเจอร์ไรซิ่ง ซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีฐานลูกค้าที่กว้าง เนื่องจากเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของทุกสภาพผิว โดยถือได้ว่าเป็นการออกภาพยนตร์โฆษณาในรอบ 6 ปีที่ผ่านมา

ปัจจุบันบริษัทฯ มีกลุ่มผลิตภัณฑ์ในทุกกลุ่มที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค โดยแบ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่คือกลุ่มผู้หญิงไม่ว่าจะเป็นกลุ่มสิว, ลดเลือนริ้วรอย, กลุ่มทำความสะอาดผิวหน้า, มอยเจอร์ไรเซอร์, คัลเลอร์ เป็นต้น คิดเป็นสัดส่วน 97% และกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ชาย ซึ่งตลาดผู้ชายถือเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากพฤติกรรมของผู้ชายที่หันมาใส่ดูแลตัวเองมากขึ้น โดยบริษัทฯ มีผลิตภัณฑ์พื้นฐานหลักๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการไม่ว่าจะเป็นกลุ่มบำรุงผิว ทำความสะอาด โกนหนวด น้ำหอม มอยเจอร์ไรซิ่ง แต่กลุ่มผู้ชายก็ยังไม่ใช่กลุ่มหลักซึ่งมีสัดส่วนเพียง 3% ของกลุ่มผลิตภัณฑ์ทั้งหมด

สำหรับปัจจุบันบริษัทฯ มีเคาน์เตอร์ในห้างสรรพสินค้าทั้งสิ้น 45 เคาน์เตอร์แบ่งสัดส่วนเป็นต่างจังหวัด 35% กรุงเทพฯ และปริมณฑล 65% โดยมีฐานสมาชิกอยู่ที่ 70,000 รายและมียอดผู้เข้ามาใช้บริการสม่ำเสมอภายในระยะเวลา 1 ปีที่ 35,000 ราย

ความเห็น
  1. samnakabb พูดว่า:

    เป็นเรื่องที่ดีมากเลย มันจะทำให้เรามีความสะดวกสบายมากขึ้น
    การร่วมมือกันทำงานจะได้ทำให้เรามีความสัมพันธ์ที่ดี แล้วผลงานก็จะดีด้วย

ใส่ความเห็น